วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

รีวิว Samsung S8500 Wave

ห่างหายไปจากรีวิวมือถือไปนานพอสมควร กลับมาคราวนี้รุ่นที่เราจะนำมาเสนอกันต้องไม่ธรรมดาแน่นอน โดยวันนี้มีมือถืออีกหนึ่งรุ่นมานำเสนอกัน แม้ว่าจะยังไม่โปรโมทมากตอนนี้ แต่ยอดขายกำลังมาแรงแซงทางโค้ง ด้วยราคาค่าตัวที่ค่อนข้างถูก แต่ได้สเปคน้องๆ "iPhone 4" จะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก "Samsung Wave" นั่นเอง !!

 
Samsung S8500 Wave


  จำกันได้มั้ยว่าปลายปีก่อนได้มีการเปิดตัว OS ใหม่ของซัมซุงที่มีชื่อว่า "Bada" (แปลว่า มหาสมุทร) ซึ่งเป็นอีก OS ที่ทุกคนสามารถพัฒนาซอฟท์แวร์ลงได้อย่างไม่จำกัด (เพราะเป็นโอเพ่นซอร์ส) และรุ่นแรกที่ใช้ OS นี้นั่นก็คือ "Samsung Wave" เปิดตัวมาก็แรงเลยครับ ด้วยคุณสมบัติเด่นดังต่อไปนี้ ....








  

หน้าจอแบบ Super AMOLED


  ซัมซุงเลือกใช้เทคโนโลยีหน้าจอแบบใหม่ "Super AMOLED" ในมือถือ 3 รุ่นหลักของแบรนด์คือ "Wave-Galaxy S-Galaxy Beam" หน้าจอแบบใหม่นี้มีความบางกว่าจอชนิดอื่นๆ เพราะไม่มีอะไรมาบดบังหน้าจอหลัก, ให้สีสัน ความสว่างมากขึ้นถึง 20%, ลดการสะท้อนแดด 80% ทำให้เป็นจอที่สู้แดดได้ดีที่สุดในตอนนี้ และประหยัดไฟกว่าเดิม 20% เมื่อเทียบกับจอ AMOLED เดิม หลายท่านที่ได้เห็นแล้วต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันครับว่า "มันแจ่มจริงๆ !!"
 

Hummingbird+SGX540


  ซัมซุงพัฒนาชิป "S5PC110" ซึ่งประกอบไปด้วยซีพียู "Cortex-A8 1GHz (Hummingbird)"+ ชิปกราฟฟิค PowerSGX540 ที่มีประสิทธิภาพสูงในตัว ทำให้รุ่นนี้สามารถเล่นเกม ประมวลผลภาพ 3D ได้สบายๆ ประกอบกับจอ Super AMOLED แล้ว เหมือนย่อ LED TV มาไว้ในมือถือเลยล่ะครับ



 Bada OS


  ไม่กล่าวถึงก็คงไม่ได้เพราะรุ่นนี้เป็นรุ่นแรกที่ใช้ OS ใหม่ที่ซัมซุงพัฒนาขึ้นมาเอง โดย "Bada OS" เป็นระบบปฏิบัติการเปิด สามารถพัฒนาโปรแกรมมาลงได้แบบไม่จำกัด เมนูภายในใช้งานง่าย (TouchWiz 3.0 UI) หลายคนอาจจะต้องข้อสงสัยว่า "มันจะไม่หยุดนิ่งเหมือน Jet เหรอ ?" ไม่หยุดนิ่งอย่างแน่นอนครับ เพราะมันสามารถพัฒนาไปได้แบบไม่มีวันจบสิ้น : )




บอดี้แบบโลหะ Unibody


  หลายคนต้องการเครื่องที่ทนไม้ทนมือสักหน่อย ดังนั้น "Wave" จึงน่าจะตอบโจทย์คุณได้เพราะบอดี้ 80% เป็นโลหะทั้งหมด แถมยังเป็นแบบ "Unibody" คือเป็นโลหะชิ้นเดียวไร้รอยต่อ และฝาหลังก็ยังเป็นอลูมิเนียม ทนทาน น้ำหนักเบาอีกด้วย แม้ว่าเครื่องจะหนักสักหน่อย แต่เรื่องถึกนี่กินขาดแน่นอนครับ

 บันทึกวิดิโอ HD720p


  เรื่องพิคเซลกล้องอาจจะไม่โดดเด่นมากนัก เพราะให้มาแค่ 5 ล้านพิคเซล (ยิ่งพิคเซลมาก โมดูลก็จะยิ่งใหญ่ ทำให้เครื่องหนาขึ้นไปอีก) แต่เรื่องการบันทึกวิดิโอถือว่าสุดยอด เนื่องจากอัดได้ความละเอียดถึง 1280x720 พิคเซลเลยทีเดียว แถมคุณภาพยังทำได้ดี สามารถเอามาใช้ถ่ายแทนกล้องวิดิโอได้เลยครับ

คุณสมบัติเด่นอื่นๆ


- รองรับการเชื่อมต่อ 3G HSDPA 7.2/HSUPA 2.0 Mbps (900/2100 MHz)

- เชื่อมต่อ WiFi 802.11 b/g/n

- บลูทูธ 3.0

- ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเสริมจาก "Samsung Apps"

- วิทยุ FM พร้อมอัดรายการวิทยุได้

- ระบบเสียง 5.1 CH (สำหรับหูฟัง)

- รองรับวิดิโอฟอร์แมต DviX/XviD

- เสียงลำโพงดังมาก !!


  เห็นคุณสมบัติเด่นแล้ว น่าสนใจมากๆ ครับ สำหรับ "Samsung Wave" แต่การใช้งานจริงจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูกันเลย :D



iPhone 3GS กับ 10 ความสุดยอดที่คุณควรรู้ก่อนซื้อ

http://www.pokpitch.com/wp-content/uploads/2009/08/iphone-3gs1.jpg 

iPhone 3GS กับ 10 ความสุดยอดที่คุณควรรู้ก่อนซื้อ

ในที่สุด iPhone 3GS ก็เข้ามาสู่ประเทศไทยโดย TrueMove แล้ว รายละเอียดนั้นสามารถอ่านได้ที่นี่ TrueMove เปิดตัว iPhone 3GS นี่ก็นับเป็นรุ่นที่ 3 สำหรับ iPhone แล้วหลังจากเปิดตัว รุ่นแรกในปี 2007 โดยทาง Apple นั้นได้รับรองว่ารุ่นใหม่นั้นเร็วและทรงพลังกว่า iPhone 3G แน่นอน สิ่งที่เหมือนกันก็มีแค่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย ดังนั้นเพื่อเป็นการ โหมกระแส iPhone 3GS เรามารู้จักกับ 10 สิ่งสุดยอดที่คุณควรจะรู้เอาไว้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อกันครับ

  1. มันเร็วขึ้น ทาง Apple นั้นได้ออกมาประกาศเอาไว้ว่ามันเร็วกว่า iPhone 3G ถึง หนึ่งเท่าตัวเลยทีเดียว ส่งผลให้การเรียกใช้งานโปรแกรมต่างๆ ตลอดไปจนถึงการปิดโปรแกรม นั้นเป็นไปอย่างรวดเร็วไม่อืดอาด ให้เราต้องหงุดหงิด
  2. มีความจุที่เพิ่มขึ้น Apple นั้นจะขาย iPhone 3GS อยู่เพียงสองแบบก็คือแบบ 16GB และ 32GB ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงจากที่เคยขายในความจุ 4GB, 8GB และ 16GB เท่านั้น
  3. ถ่ายวิดีโอได้ โดยทั่วไปแล้วการที่เราจะทำการถ่ายวิดีโอนั้น เราจำเป็นที่จะต้องหาโปรแกรมเสริมเข้ามาช่วยเพื่อที่จะให้สามารถถ่ายวิดีโอ ได้ เพราะใน iPhone รุ่นก่อนหน้านี้ ไม่มีลูกเล่นนี้ติดมาให้ด้วย แต่ในรุ่นล่าสุดนี้ มันกลายเป็น ลูกเล่นใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้าไป ดังนั้นมันต้องเจ๋งแน่นอน
  4. กล้องมีความละเอียดเพิ่มขึ้น ในรุ่นก่อนหน้านี้กล้องที่ติดมากับ iPhone นั้นจะมีความละเอียอดสุงสุดที่ 2 Mega Pixel เท่านั้น แถมยังไม่มีระบบ Auto Focus อีกต่างหาก  แต่ในรุ่น 3GS นี้ กล้องได้ถูกปรับปรุงให้มีความสามารถในการถ่ายภาพได้ถึง 3 Mega Pixel และที่สำคัญก็คือมี “ระบบ Auto Focus” มาให้อีกด้วย
  5. ระบบสั่งงานด้วยเสียง (Voice Control) ระบบนี้เป็นสิ่งที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่ใน iPhone 3GS ลองนึกดูนะครับ มันจะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถสั่งให้มัน เล่นเพลงได้ โดยแค่เรา พูดกรอกลงไปกับเครื่อง  ไม่ต้องกดปุ่มอะไร แค่พูดว่า “เปิดเพลง” ทำนองเนี้ย แจ่มมั้ยละ หรือจะเป็นการโทรออกโดยใช้เสียง นึกอยากจะโทรหาใครก็ แค่ ยก ขึ้นมาแล้วพูดว่า “น้องแนท” แค่นี้ มันก็จะโทรหาน้องแนทให้ ชีวิตเราง่ายขึ้นอีกตั้งเยอะเลยนะเนี้ย
  6. มีเข็มทิศให้ใช้ด้วย นี่คือระบบเข็มทิศแบบดิจิตอล ซึ่งเป็นลูกเล่นใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในรุ่นนี้ ซึ่งถ้าได้เอามาใช้ร่วมกับ Google Map ละก็มันจะช่วยให้คุณดูแผนที่ได้ง่ายขึ้นมากทีเดียว จะได้ไม่ต้องหลงทิศ อีกต่อไป
  7. สามารถแชร์อินเตอร์เนทให้คอมพิวเตอร์ใช้งานได้ ระบบนี้เราจะเรียกมันว่า “Internet Tethering“  ซึ่งมันจะทำตัวมันเองให้ทำงานคล้าย Modem ซึ่งจะเชื่อมต่อผ่านสาย USB หรือจะเป็น Bluetooth ก็ได้ แค่นี้เราก็จะสามารถแชร์เนทไปให้ Mac หรือ PC ที่เราต้องการได้แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์มือถือที่ ท่านใช้งานอยู่ ว่ารับรองกับระบบนี้หรือไม่
  8. ความสะดวกในการใช้งานที่เพิ่มขึ้น ทาง Apple ได้เพิ่มฟังค์ชั่นที่จะช่วยให้เราใช้งานได้สะดวกขึ้น อาทิเช่น ระบบ VoiceOver ที่จะคอยอ่านข้อความที่อยู่บนจอภาพให้ออกมาเป็นเสียง หรือจะเป็นระบบ zoom  ที่ทำให้เรา zoom เข้าไปได้ถึง 5 ครั้ง และระบบปรับสภาพ contrast จออัตโนมัติในกรณีที่ต้องอ่านข้อความสีขาว บนพื้นสีดำ
  9. ใช้งาน Nike+ iPod ได้ด้วย โดยก่อนหน้านี้ระบบนี้ได้ถูกนำเข้าไปใช้งานกับ iPod Nano ก่อนแล้ว โดยมันจะใช้งานร่วมกับรองเท้า Nike ที่สนับสนุนการทำงาน Nike+ ซึ่งจะส่งผ่านข้อมูลทาง Bluetooth  ทำให้เรารู้ว่าเราวิ่งได้ระยะทางแค่ไหน เสียพลังงานไปเท่าไหร่ แล้วมันจะตีออกมาเป็นสถิติให้
  10. หูฟังแบบใหม่ โดยหูฟังแบบใหม่นี้จะมีปุ่มแบบ multi-button ซึ่งทำให้เราสามารถปรับเสียง ดัง-ค่อย ได้ ซึ่งหูฟังในรุ่นหน้านี้จะไม่สามารถทำได้
ถ้าซื้อ iPhone 3GS มาแล้วก็อย่าลืมใช้ข้อดีและลูกเล่นใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามาด้วยนะครับ จะได้คุ้มๆ กับค่าตัวที่ต้องเสียไป อิอิ

ที่มา : http://www.pokpitch.com/2009/iphone-3gs-10-things

http://qoolbuy.com/item/i-phone3Gs-16GB-US-unlocked/183

รีวิว LG GT505

LG GT505 PathFinder

   

 Review : LG GT505 Pathfinder

Article By : zipboy : E-Mail : zipboy@mxphone.com

แน่ นอนว่ากาลเวลาทำให้เทคโนโลยีถูกลง เราจึงได้เห็นมือถือจอสัมผัสทั้งหลาย ค่อยๆมีราคาเปิดตัวที่ถูกลง รวมถึงมีระบบปฎิบัติการหลายๆแบบให้เลือกใช้ ไม่เว้นกระทั้งมือถือจากจีนที่ก็นำการป้อนข้อมูลแบบจิ้มมาใช้งานด้วยเช่นกัน แต่ในความคิดผม คนที่ทำลายกำแพงราคาเทคโนโลยีตัวจริง ก็คงหนีไม่พ้นมือถือจากค่ายฝั่งเกาหลี เพราะในช่วงปลายปี 2008 ที่ผ่านมา LG เปิดตัว KP500 มือถือจอสัมผัสที่ราคาต่ำกว่า 10,000 บาทเป็นครั้งแรก พร้อมกับดึง โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ นักร้อง / นักเปียโนชื่อดังของไทยมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ พร้อมชูจุดขายอย่างชัดเจนว่า “ทัชโฟนฉลาดๆ ใครก็เอื้อมถึง”  

  
   แต่เรื่องที่ตลกก็เกิดขึ้นจนได้ ทั้งที่ KP500 เป็นรุ่นแรกๆที่แหกกติการาคากับสเปกแล้ว แต่กลับไม่สามารถทำยอดขายได้มากพอ ทั้งที่คู่แข่งตัวฉกาจอย่าง SAMSUNG ต้องใช้เวลาหลังจาก LG ขาย KP500 เกือบครึ่งปี ถึงจะปล่อย STAR ออกมาขาย พร้อมราคาเปิดตัว 8990 ที่ถึง KP500 จะลดราคาลงมาสู้แล้ว STAR ก็ยังเก็บยอดขายแบบชนิดที่เจ้ายักษ์อย่าง Nokia ยังต้องซุ่มทำ 5530 XPRESSMUSIC ออกมาแข่งด้วย LG เองก็รู้ดีว่า มือถือตัวเองยังไงก็สู้ STAR ที่มาทีหลังไม่ได้ แต่ถ้าจะออกของใหม่ทั้งที จะแค่ทำให้เท่ากับคู่แข่งแบบที่ตัวเองชอบทำ เห็นทีก็คงจะไม่ไหว การซุ่มปล่อย GT505 หรือชื่อเล่นว่า PathFinder พร้อมกับสเปกที่รอถล่มคู่แข่งมือถือจอสัมผัสในช่วงราคาเกือบหมื่นทั้งหลาย และ MXPhone เองก็ไม่พลาดที่จะล็อกคิวมาทดสอบ มาชมกันว่า มันจะเจ๋งจริงตามสรรพคุณบนฉลากหรือไม่ ชมกันเลยครับ

ที่มา http://www.mxphone.com/review/4762/LG-GT505-PathFinder
http://www.qoolbuy.com/item/LG-GT505/179

 

รีวิว LG Cookie KP500

LG Cookie KP500
สัมผัสมือถือคุ้กกี้ ขนมชิ้นใหม่แสนอร่อยจากค่าย LG

ตัวเครื่องที่อาจจะดูเล็ก แต่จอแสดงผลของรุ่นนี้มีขนาดใหญ่ถึง 3 นิ้วเลยทีเดียว หน้าจอสแตนด์บายยังมี Widget ที่ลากออกมาวางไว้บนหน้าจอได้ แต่หากคิดว่าวางไม่เป็นระเบียบก็เพียงแค่เขย่าตัวเครื่อง เมนูจะถูกจัดเรียงให้เป็นระเบียบอัตโนมัติ การใช้งานหน้าจอสัมผัสของรุ่นนี้ถูกออกแบบให้แต่ละไอคอน แต่ละเมนูมีขนาดใหญ่จนใช้นิ้วแตะสั่งงานได้ทันที รูปแบบเมนูหลักเป็นแบบแท็บ แบ่งเป็น 4 หมวดใหญ่ๆ เข้าใจง่าย ไม่สลับซับซ้อน
ใต้จอแสดงผลมีปุ่มมาให้เพียง 3 ปุ่มคือปุ่มรับสาย ปุ่มวางสาย และตรงกลางคือปุ่มสำหรับเปิดเมนู Shortcut สำหรับเรียกใช้งานเมนูลัด
ด้านข้างซ้ายเป็นปุ่มปรับระดับเสียงในโหมดต่างๆ ถัดลงมาเป็นช่องเสียบสายต่างๆ รวมอยู่ในช่องเดียวกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสายชาร์จแบตเตอรี่ สายดาต้าลิงค์ และชุดหูฟังแบบสเตอริโอ มีฝาปิดป้องกันฝุ่นละออง

 
  

Cookie Free Touch
LG Cookie หรือภายใต้รหัส KP500 ถูกออกแบบมาให้ใช้งานหน้าจอสัมผัสเกือบทั้งหมด หรือหากไม่ถนัดก็ดึงปากกาสไตลัสที่อยู่ด้านล่างขึ้นมาจิ้มบนหน้าจอ ด้วยอินเตอร์เฟสที่ชื่อว่า Free Touch ที่ออกแบบมาสำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะ โดยมี Widget หรือแถบเครื่องมือที่ให้ผู้ใช้ดึงออกมาใช้งานบนหน้าจอสแตนด์บาย แต่หากดึงออกมาจนรกหน้าจอก็เพียงแค่เขย่าเครื่อง มันก็จะจัดการเรียงเมนูให้ใหม่อย่างเป็นระเบียบทั้งหมด ตัวเครื่องยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว ใช้สำหรับเล่นเกมส์ และเปลี่ยนแนวการแสดงผลเป็นแนวตั้ง หรือแนวนอนโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะใช้ได้ในการดูเวบเพจ หรือพิมพ์ข้อความ หากอยู่ในแนวตั้งก็พิมพ์ข้อความแบบ Multi-Tap ตามปกติ เมื่อวางหน้าจอแนวนอนก็จะมีคีย์เสมือนแบบ QWERTY บนหน้าจอ ช่วยให้พิมพ์ข้อความได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมี Drawing Panel สำหรับวาดรูป หรือเขียนข้อความต่างๆ ด้วยลายมือตัวเองได้อีกด้วย


หน้าจอสแตนด์บายแบบโล่งๆ


ดึงไอคอนจาก Widget ออกมาวางได้ตามต้องการ


เมนูแบบแท็บ

พิมพ์ข้อความได้ด้วยคีย์บอร์ดเสมือนบนหน้าจอแนวนอน

ตัดต่อวีดีโอด้วย Movee Studio


วิทยุ FM แต่แล้วลากเพื่อจูนคลื่น
Strength
  • จอแสดงผลแบบสัมผัส 3 นิ้ว พร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว
  • คีย์บอร์ดแบบ QWERTY ในตัว กับขนาดที่ไม่ใหญ่จนเกินไปนัก
  • เครื่องเล่น MP3 และวิทยุ FM แบบสเตอริโอ
  • กล้องดิจิตอล 3 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูง
  • เปิดอ่านไฟล์เอกสารออฟฟิศได้ด้วยโปรแกรม Picsel File Viewer
  • พิมพ์ข้อความได้รวดเร็วด้วยคีย์บอร์ดเสมือนแบบ QWERTY
  • วาด หรือเขียนข้อความด้วยลายมือบนหน้าจอได้
Weakness
  • กล้องไม่มีไฟช่วยส่องสว่าง
  • ยังไม่รองรับระบบ 3G
ที่มา http://www.whatphone.net/mobile/lg_kp500-review-991.html
http://www.qoolbuy.com/item/LG-KP500/178

วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

รีวิว LG T300 Cookie Lite

ออกมาสดๆร้อนๆกันไปเลยสำหรับ LG T300 Cookie Lite ตัวเล็กเหมาะมือ หน้าจอสัมผัสขนาด 2.4 นิ้วตัวเบามากมาย เพราะหนักแค่ 0.7 ขีดกว่าๆ (น้ำหนักรวมกับแบตแล้วนะครับ)



Image

 หน้าจอจะมีเพียงสองหน้าเท่านั้นนะครับ โดยหน้าแรกจะเป็น widget หน้าสองจะเป็นโทรด่วน

Image

 หน้าจอเมนูทั้งหมดนะครับ

Image

 ส่วนของ Application ที่เพิ่มใส่เข้ามา

Image 
จุดเด่นของรุ่นนี้ก็น่าจะเป็นคีย์บอร์ดที่ตอบสนองอย่างดี สามารถกลับหน้าจอเป็นแนวนอนและสามารถพิมพ์ได้อย่างสะดวกทั้งภาษาไทยและภาษา อังกฤษ

Image

 การเขียน ก็สามารถเขียนได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

สรุปการใช้งาน

จากที่ได้ลองเล่นแล้วเหมือนว่าทางแอลจีจะเอารุ่นนี้มาตีคู่แข่งอย่างแชมป์แบบเต็มๆผมเคยได้ลองเทสแชมป์มาแล้วบ้าง การใช้งานไม่ผิดกันสักเท่าไหร่ จุดเด่นของแอลจีก็คงเป็นคีย์บอร์ดที่มีการสัมผัสที่โอเคและสะดวกสำหรับใครที่ชอบพิมพ์ อ้อ ในเรื่องการตอบสนองของเมนูขอบอกว่าเร็วใช้ได้เลยครับ ไม่อืดๆเหมือนรุ่นก่อนๆแน่นอนเห็นสีเพียงแค่สีดำ แต่คิดว่าอีกสองสี คือ สีขาว และสีชมพู น่าจะสวยน่ารัก เหมาะสำหรับสาวๆแน่ๆจะว่ากันตรงๆใครที่คิดว่าอยากได้มือถือราคาเบาๆ ออพชั่นแจ่มๆ น้ำหนักไม่หนักมาก ก็คงแนะนำครับ

รีวิว Samsung Candy Chat WiFi


ซัมซุง ออกมาเยอะเหลือเกินในตระกูล candy ตัวนี่จะรวมไว้ทั้ง Chat + WiFi มากับกล้อง 2 ล้าน แป้นพิมพ์คีย์บอร์ดแบบ QWERTY สไลด์ออกด้านข้าง เปิดตัว ต้นปี 2010 นี้เองครับ ใครที่ชอบ chat หรือชอบท่องเน็ต ก็มีฟังก์ชั่น WIFI ไว้ให้ในตัวแล้วครับ ส่วนในเรื่องราคา ก็ไม่แพงเกินไปกับคุณสมบัติที่ samsung เตรียมไว้ให้กับรุ่นนี้ข้อมูล ตัวเครื่อง Samsung Candy Chat WiFi

* ระบบ Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)
* จอสัมผัส TFT-LCD 262,144 สี – 240 x 320 พิกเซล (กว้่าง 2.6 นิ้ว)
- ระบบสัมผัสแบบ TouchWiz UI 2.0 พร้อม Widget
* แป้นพิมพ์คีย์บอร์ด QWERTY แบบสไลด์ออกด้านข้าง
* หน่วยความจำ 1 GB / 2 GB (ตัวเครื่อง)
- การ์ดหน่วยความจำ microSD card – สูงสุด 16 GB




ระบบเชื่อมต่อ Samsung Candy Chat WiFi
* ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)
- WiFi 802.11b/g, WLAN (Wireless LAN)
- บลูทูธ Bluetooth™ v2.1, USB v2.0
* ใช้งานอินเตอร์เน็ต xHTML/WAP 2.0 Browser


จุดเด่น ของSamsung Candy Chat WiFi
* กล้องดิจิตอล 2 ล้านพิกเซล (Digital camera)
* บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording)
* เครื่องเล่นวีดีโอ H.263, MPEG4
* เครื่องเล่นเพลง (Music Player)
- รองรับไฟล์ MP3, AAC, AAC+, eAAC+, WMA
* วิทยุ FM radio – RDS

ที่มา http://imagesphone.com/samsung-candy-chat-wifi
http://www.qoolbuy.com/item/Samsung-Candy-Chat-WiFi-B3410W/176

รีวิว Samsung Galaxy S I9000

SAMSUNG Galaxy S
Android Phone ตัวแรง จาก SAMSUNG

SAMSUNG Galaxy S
SAMSUNG Galaxy S ถูกปล่อยออกมาสานต่อความแรงของรุ่นน้อง อย่าง SAMSUNG Galaxy Spica โดย นำความสามารถอันหลากหลายของระบบปฏิบัติการ Andriod v2.1 (?clair) มาขับเคลื่อนบนฮาร์ดแวร์ที่เรียกได้ว่ามีคุณภาพเป็นอันดับต้นๆ ของตลาดในตอนนี้ ซึ่ง SAMSUNG Galaxy S เป็นมือถือแอนดรอยด์รุ่นแรกที่เลือกใช้หน้าจอคุณภาพสูงแบบ Super AMOLED ที่ให้สีสัน และความคมชัดสูงกว่าบรรดาหน้าจอโทรศัพท์มือถือทั่วไป มีความละเอียดสูงถึง 480 x 800 แสดงผลได้ 16.7 ล้านสี พร้อมกันนั้นยังเป็นจอสัมผัสแบบ Capacitive ที่รองรับการสัมผัสสั่งงานแบบ Multi-touch ได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ SAMSUNG Galaxy S ยังมีสุดยอดขุมพลังอย่างหน่วยประมวลผล Samsung S5PC110 ที่ซัมซุงพัฒนาขึ้นบน ARM Cortex-A8 ที่มีความเร็วสูงถึง 1 GHz รวมกับชิปประมวลผลกราฟฟิครุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง PowerVR SGX540 ที่ประมวลผลได้ 90 Mtri/s (90 ล้านสามเหลี่ยมโพลีกอนต่อวินาที) ซึ่งทำได้ร่วม 1 ใน 3 ของความเร็วในการประมวลผลบนเครื่องเล่นเกม PS3 จึงถือได้ว่า Galaxy S นั้นเป็นโทรศัพท์ที่น่าสนใจทั้งในแง่ของความสวยงามของจอ และความเร็วของหน่วยประมวลผลกราฟฟิคอีกด้วย

Andriod Platform
SAMSUNG Galaxy S นั้นขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ Andriod v2.1 (?clair) ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด โดยสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ จากกูเกิ้ลได้อย่างเต็มที่ ทั้ง Calendar, Google Mail, Google Talk, Google Maps, Youtube และดาวน์โหลดโปรแกรมต่างๆเพื่อเพิ่มลูกเล่น และความสามารถให้กับมือถือของคุณได้จาก Android Market ที่มีแอพพลิเคชั่นให้เลือกอย่างหลากหลาย ซึ่ง ณ ปัจจุบันมีโปรแกรมต่างๆ พร้อมให้เลือกดาวน์โหลดแล้ว กว่า 5 หมื่นโปรแกรม และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องซึ่งเรียกได้ว่าแอพลิเคชั่นต่างๆ บน Android Market นั้นมีอัตราการเพิ่มที่รวดเร็วเหลือเกิน  โดยความสามารถในการเข้าถึงบริการต่างๆ ดังที่กล่าวมาข้างต้นนั้น จะต้องอาศัยการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตในการเป็นส่วนใหญ่ SAMSUNG Galaxy S  จึง ถูกออกแบบมาให้รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงบนเครือข่าย 3G ที่ความเร็วสูงสุด 7.6 Mbps หรือจะเลือกเชื่อมต่อผ่านระบบ Wi-Fi ตามจุดที่ฮอทสปอทที่ให้บริการอินเตอร์เน็ตก็ย่อมได้ นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมต่อผานบลูทูธในมาตรฐานใหม่ นั่นก็คือบลูทูธเวอร์ชั่น 3.0 ที่มีมีความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลมากกว่าเวอร์ชั่นเดิมถึง 8 เท่าด้วยกัน

ดาวน์โหลดโปรแกรมบน Samsung Apps


เข้าใช้งาน twitter


บันทึกเรื่องราวต่างๆบน Mini Diary


 หน้าจอสแตนด์บาย พร้อมแอพลิเคชั่นจากแอนดรอยด์


ใช้งาน Google Maps

เมนูหลักตามสไตล์ Samsung
Strength
  1. ระบบปฏิบัติการ Android v.2.1
  2. หน้าจอสัมผัส Super AMOLED ขนาด 4 นิ้ว
  3. เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูงระดับ 3G
  4. กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอได้ระดับ HD 720p
  5. มีกล้องหน้ารองรับ Video Call
  6. เครื่องเล่นเพลง พร้อมช่องเสียบชุดหูฟังขนาด 3.5 มม.
  7. รองรับการใช้งาน Wi-Fi
  8. รองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่านบลูทูธ v.3.0 (A2DP)
Weakness
  1. กล้องถ่ายภาพไม่มีไฟแฟลชแบบ LED มาให้
  2. วัสดุของฝาหลังค่อนข้างบอบบาง
ที่มา http://www.whatphone.net/review/Samsung/I9000_Galaxy_S.html
http://www.qoolbuy.com/item/Samsung-Galaxy-S-I9000/175

รีวิว nokia C3


ข้อมูล ตัวเครื่อง ของ Nokia C3
  • จอแสดงผลแบบ TFT LCD 262,144 สี ความละเอียด 320x240 Pixels (QVGA : กว้าง 2.4 นิ้ว) พร้อม Keyboard แบบ Full QWERTY ในตัว
  • หน่วยความจำภายในขนาด 55 MB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 8 GB
  • เชื่อมต่อ Nokia OSS Web Browser ผ่านระบบ WiFi, EDGE หรือ GPRS Class 32 พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน Bluetooth
  • โปรแกรมเล่นไฟล์เพลง MP3, AAC, eAAC, eAAC+, WAV, WMA พร้อมช่องต่อสายหูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร
  • กล้องดิจิตอลในตัว ความละเอียดระดับ 2 ล้าน Pixels (1600x1200 Pixels), ถ่ายภาพวิดีโอ (QCIF : 176x144 Pixels : 15 fps : MPEG4)
รายละเอียดตัวเครื่องเบื้องต้น
  • ระบบสัญญาณ GSM Quad Band (850/900/1800/1900 MHz)
  • ขนาด 115.5x58.1x13.6 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 114 กรัม
  • ชนิดจอแสดงผลแบบ TFT LCD 262,144 สี ความละเอียด 320x240 Pixels (QVGA : กว้าง 2.4 นิ้ว)
  • - รองรับการใช้งาน Widgets และ Shortcuts บนหน้าจอหลัก
  • - User Interface แบบ Nokia Series 40
  • ชนิดแบตเตอรี่ Li-Ion 1320 mAh (BL-5J)
  • ระยะเวลารอรับสายสูงสุด ประมาณ 480-500 ชั่วโมง
  • ระยะเวลาสนทนาสูงสุด ประมาณ 7-8 ชั่วโมง
  • ระยะเวลาการฟังเพลงต่อเนื่องสูงสุด ประมาณ 30 ชั่วโมง (ในโหมด Offline)
คุณสมบัติเกี่ยวกับข้อความและการเชื่อมต่อเบื้องต้น
  • SMS (Short Messaging Service)
  • MMS (Multimedia Messaging Service)
  • Email
  • - รองรับการใช้งานบัญชีอีเมลของ Ovi, Yahoo!, Gmail, Windows Live, Hotmail
  • - รองรับการใช้งานระบบ Push Email
  • Instant Messaging (Nokia Messaging Service)
  • - รองรับการใช้งาน Windows Live Messenger, Yahoo! Messenger, Google Talk, Ovi Chat
  • Nokia Xpress Audio Messaging
  • ระบบสะกดคำอัตโนมัติ (T9)
  • HTML Browser (Nokia OSS Web Browser)
  • - รองรับ Flash Lite เวอร์ชัน 3.0
  • WAP Browser 2.0 / xHTML
  • WiFi (WLAN : Wireless LAN : 802.11 b/g)
  • EDGE Class 32 (296 kbps)
  • GPRS Class 32 (107 kbps)
  • Bluetooth เวอร์ชัน 2.1
คุณสมบัติด้านกล้องเบื้องต้น
  • กล้องดิจิตอลในตัว ความละเอียดระดับ 2 ล้าน Pixels
  • - ความละเอียดสูงสุดของภาพถ่าย 1600x1200 Pixels
  • - ซูมภาพแบบดิจิตอลได้ 4 ระดับ (Digital Zoom)
  • - ตั้งเวลาถ่ายภาพล่วงหน้า (Self-Timer)
  • - ใส่ Effects ให้กับรูปภาพ (Greyscale, Sepia และ Negative)
  • - ถ่ายภาพวิดีโอ (QCIF : 176x144 Pixels : 15 fps : MPEG4)
  • - ไฟให้แสงสว่างสำหรับการถ่ายภาพวิดีโอ (Video Light)
  • - ซูมภาพวิดีโอแบบดิจิตอลได้ 4 ระดับ (Digital Zoom)
  • วิทยุ FM Stereo ในตัว พร้อมรองรับการใช้งานระบบ RDS (Radio Data System)
  • - รองรับคลื่นความถี่วิทยุระหว่าง 87.5-108 MHz และ 76-90 MHz
  • รองรับการใช้งานเครื่องในแบบ Flight Mode (เปิดใช้งานเครื่องโดยไม่ต้องเปิดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ)



ที่มา : http://hitech.sanook.com/AB-928049.html

http://www.qoolbuy.com/item/nokia-C3/174

รีวิว Apple iPhone 4


วันนี้ทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์ของเราก็ได้ Apple iPhone 4 ตัวเป็นๆ มาอยู่ในมือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากรอคอยกันมานาน ซึ่งเราก็คงไม่พลาดที่จะนำมารีวิวให้ทุกท่านได้ชมกันด้วยอย่างแน่นอน มาเริ่มแกะกล่องไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่า ซึ่ง iPhone 4 นั้นก็เปิดตัวไปตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และมีกระแสตอบรับที่ดีสุดๆ เช่นเคย หากเทียบกับรุ่นเดิมอย่าง 3GS นั้นก็ถือว่า iPhone 4 มีการพัฒนาไปมากเลยทีเดียว ตั้งแต่เรื่องของรูปลักษณ์ภายนอก เทคโนโลยีการแสดงผล ความเร็วในการประมวลผล ระบบการทำงาน การถ่ายภาพนิ่ง การถ่ายภาพวิดีโอ รวมถึงเทคโนโลยีล้ำยุคอื่นๆ อีกหลายอย่าง ซึ่งเราจะรีวิวให้ทุกท่านได้ดูกัน   


สรุปผลการทดสอบ
จากการทดสอบการใช้งานมาได้ประมาณ 1 สัปดาห์ กับ Apple iPhone 4 ก็พอจะมองเห็นอะไรหลายๆ อย่างจากโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ จึงขอสรุปเป็นจุดเด่นและจุดด้อยตามความคิดเห็นส่วนตัวคร่าวๆ ดังนี้

จุดเด่น
- ตัวเครื่องมีการออกแบบดีไซน์ที่สวยทันสมัย ผสมผสานกับความคลาสสิค พร้อมความบางเฉียบ หรือหนาเพียง 9.3 มิลลิเมตรเท่านั้น
- หน้าจอแสดงผลแบบ Retina Display ขนาด 3.5 นิ้ว ความละเอียดสูงระดับ 640x960 พิกเซล (326 จุดต่อนิ้ว : ละเอียดมากกว่า 3GS สี่เท่า) แสดงผลได้ละเอียดคมชัด และมีการเคลื่อนไหวที่เนียนตามากเป็นพิเศษ
- แผ่นกระจกด้านหน้าและด้านหลังตัวเครื่องแบบ Gorilla Glass ซึ่งมีความทนทานแข็งแรงมากเป็นพิเศษ และสามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้
- กรอบตัวเครื่องทำมาจากโลหะ Stainless Steel ช่วยเพิ่มความทนทานแข็งแรง และใช้งานเป็นเสารับสัญญาณในตัว ช่วยให้ประหยัดพื้นที่ภายในตัวเครื่องได้มากขึ้น
- หน่วยประมวลผลแบบ Apple A4 Processor พร้อมความเร็วในการประมวลผลระดับ 1 GHz ช่วยให้มีการตอบสนองที่รวดเร็วทันใจมากยิ่งขึ้น
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 512 MB
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ iOS4 พร้อมรองรับการทำงานแบบ Multitasking
- เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3-Axis Gyro Sensor ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และความยืดหยุ่นหลากหลายในการควบคุม
- กล้องดิจิตอลในตัว ความละเอียดระดับ 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED ในตัว และระบบการเลือกจุดโฟกัสภาพด้วยการสัมผัส (Touch Focus)
- รองรับการถ่ายภาพวิดีโอความละเอียดสูงระดับ 720p (1280x720 พิกเซล)
- เลนส์กล้องด้านหน้าสามารถใช้งานสำหรับการถ่ายภาพตนเองได้
- รองรับการใช้งาน Video Call ด้วยฟังก์ชัน FaceTime ผ่านทางระบบ WiFi
- รองรับการตัดต่อวิดีโอในตัวด้วยโปรแกรม iMovie
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ WiFi b/g/n, HSDPA 7.2 Mbps, EDGE และ GPRS
- รองรับการใช้งานระบบจีพีเอส พร้อมฟังก์ชัน A-GPS ในตัว
- ช่องต่อสายหูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร ช่วยให้สามารถนำหูฟังทั่วไปมาเชื่อมต่อใช้งานได้ทันที
- ไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับการสนทนาโดยเฉพาะ มีคุณสมบัติในการตัดเสียงรบกวน

จุดด้อย 
- รองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ microSIM เท่านั้น
- ถาดใส่ซิมการ์ดต้องใช้เข็มดันเข้าไปก่อน เพื่อให้เลื่อนออกมา
- หากจับตัวเครื่องด้วยมือข้างซ้าย อาจจะทำให้ความแรงของสัญญาณลดทอนไปบ้าง
- การใช้งาน Video Call ด้วยฟังก์ชัน FaceTime จะต้องผ่านทางระบบ WiFi เท่านั้น
- การโหลดไฟล์มัลติมีเดียต่างๆ ต้องทำผ่านทาง iTunes เท่านั้น
- โปรแกรมเว็บเบราเซอร์ไม่รองรับการแสดงผลไฟล์ Flash
- ไม่สามารถใส่การ์ดหน่วยความจำเพิ่มเติมได้
- ไม่มีปุ่มกล้องดิจิตอลโดยเฉพาะ
- ไม่มีวิทยุ FM ในตัว






BlackBerry®Torch 9800 เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย

Research In Motion หรือ RIM ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนตระกูลแบล็กเบอร์รี่และผู้นำด้านการออกแบบ และผลิตนวัตกรรมโซลูชั่นไร้สาย เนรมิตงานเอ็กซ์คลูซีฟปาร์ตี้สุดหรู เพื่อเปิดตัว ‘แบล็กเบอร์รี่ ทอร์ช 9800’ (BlackBerry® Torch™ 9800) สุดยอดนวัตกรรมสมาร์ทโฟน ที่มาพร้อม รูปลักษณ์ใหม่สไตล์โก้หรูและเปี่ยมไปด้วยคุณสมบัติและฟังก์ชั่นชั้นยอด โดยงานนี้ ได้รับเกียติจากแขกพิเศษระดับแถวหน้าของประเทศไทยเข้าร่วมมากมาย อาทิ พันธมิตรผู้ให้บริการโทรศัพท์และตัวแทนจำหน่าย 4 รายหลักของริม ร่วมด้วย AIS, dtac, TrueMove และเอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น พร้อมด้วยแขกพิเศษ และเหล่าเซเลบริตี้อีกคับคั่ง อาทิ ม.ล. คฑาทอง ทองใหญ่ ม.ร.ว. แม้นนฤมาส ยุคล ม.ล. กัณทลัส เกษมศรี ม.ล. วรารมณ์ ชุมพล ปรีดิ์รติ ภิรมย์ภักดี ลีลา สุนทรวิเนตร์ ศรฤทัย บุรณศิริ กฤตพณ ทัพพะรังสี อุณาวรรณ ตั้งคารวคุณ พัทธมน เตชะณรงค์ และสื่อมวลชนอีกมากมายที่มาร่วมอัพเดทแบบเอ็กซ์คลูซีฟก่อนใคร กับแบล็กเบอร์รี่สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดนี้ พร้อมทั้งดื่มด่ำบรรยากาศสุดหรู และเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมและ ความบันเทิงมากมายที่รังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษเพื่อการเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่ เหนือระดับชั้นนี้ ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ ห้องรอยัล มณียา บอลรูม โรงแรมเรเนซองส์
แบล็กเบอร์รี่ ทอร์ช 9800 สุดยอดนวัตกรรมสมาร์ทโฟน ที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพในการ เชื่อมต่อทั้งในระดับเครือข่ายสังคมและเพื่อความสำเร็จทางธุรกิจ ในด้านของรูปลักษณ์ถือได้ว่าแบล็กเบอร์รี่ ทอร์ช 9800 คือสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่นำเอาคีย์บอร์ดอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบ ล็กเบอร์รี่ผสานเข้ากับการทำงานของหน้าจอระบบสัมผัสได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนั้น ยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการแบล็กเบอร์รี่ 6 (BlackBerry® 6) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมาร์โฟนที่เหนือระดับชั้น
ระบบปฏิบัติการแบล็กเบอร์รี่ 6 คือระบบปฏิบัติการใหม่ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างดีเยี่ยม สามารถทำงานร่วมกับหน้าจอระบบสัมผัสและแทร็กแพ็ดได้อย่างกลมกลืน เปี่ยมไปด้วยความสามารถในด้านการรับส่งข้อความ ระบบการจัดการและติดตามสังคมออนไลน์ และเทคโนโลยี RSS feeds ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการติดต่อสื่อสาร นอกจากนั้น สามารถทำงานร่วมกับโปรแกรม BlackBerry® Messenger (BBM™) ที่คุ้นเคย ตลอดจนแอพพลิเคชั่นเครือข่ายสังคมออนไลน์ เช่น Facebook® Twitter™ MySpace™ และแอพพลิเคชั่นในการรับส่งข้อความอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบปฏิบัติการแบล็กเบอร์รี่ 6 มาพร้อมระบบมัลติมีเดีย ชั้นยอด นำเสนอแอพพลิเคชั่น YouTube และแอพพลิเคชั่น Podcasts เพื่อความสะดวกในการใช้งาน นอกเหนือจากนี้ ระบบค้นหาที่เหนือชั้นยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาคอนเทนท์ที่ต้องการได้ อย่างรวดเร็ว และยังขยายไปสู่การค้นหาผ่านทางอินเทอร์เน็ต และแอพพลิเคชั่นอื่นๆ จาก BlackBerry App World ได้อีกด้วย โดยการสั่งซื้อแอพพลิเคชั่นผ่าน BlackBerry App World สามารถชำระเงินผ่านเครดิตการ์ดได้แล้ว

คุณสมบัติของ แบล็กเบอร์รี่ ทอร์ช
• รูปลักษณ์ใหม่สไตล์โก้หรู ขนาดประมาณ 4.4” (เมื่อกางออก 5.8”) x 2.4” x .57” น้ำหนัก 5.88 ออนซ์
• หน้าจอสัมผัสขนาด 3.2 นิ้ว ความละเอียด 360×480 จุด
• คีย์บอร์ดแบคไลท์ ที่เลื่อนออกมาได้ มาตรฐาน QWERTY มีปุ่ม 35 ปุ่ม ซึ่งถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างคล่องตัวขณะเปิดออกมา
• ออปติคอลแทร็กแพ็ดที่ช่วยให้การค้นหาสิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น
• โปรเซสเซอร์ประสิทธิภาพสูง ความเร็ว 624 MHz พร้อมแฟลชเมมโมรี 512 MB
• ระบบจัดข้อมูลของเมมโมรีภายในตัว 4 GB บวกกับสล็อทการ์ดเมมโมรี microSD/SDHD ที่รองรับการใช้การ์ดความจุสูงสุด 32 GB
• กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ที่มีแฟลชในตัว มีระบบโฟกัสอัตโนมัติต่อเนื่อง ระบบป้องกันภาพสั่นไหว โหมดภาพทิวทัศน์ ระบบระบุข้อมูลจีพีเอสกำกับภาพ และระบบซูม รวมทั้งระบบบันทึกวิดีโอที่มีความละเอียดสูงถึง 640×480 จุด
• มีระบบจีพีเอสในตัวสำหรับรองรับการทำงานร่วมกับแอพลิเคชันระบุตำแหน่งและระบบระบุตำแหน่งจีพีเอสลงไปในภาพด้วย
• Wi-Fi (802.11 b/g/n) ลูกค้าสมาร์ทโฟนที่สมัครใช้บริการสามารถติดต่อสื่อสารผ่านวายไฟฮอตสปอท AT&T กว่า 20,000 จุด โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
• แจ็กหูฟังเสียงสเตริโอขนาด 3.5 มม.
• คุณสมบัติเหนือระดับภายในโทรศัพท์ อาทิเช่น การใช้เสียงสั่งงานเพื่อโทรออก สปีกเกอร์โฟน และบลูทูธ (2.1) ซึ่งรองรับการใช้งานกับชุดหูฟังแฮนด์ฟรี ชุดหูฟังสเตริโอ ชุดอุปกรณ์ที่ใช้งานภายในรถยนต์ (อาทิระบบที่รองรับการทำงานมาตรฐาน Bluetooth Message Access Profile) และอุปกรณ์ต่อพ่วงตามมาตรฐานบลูทูธชนิดอื่นๆ
• BlackBerry® Desktop Software 6 รุ่นใหม่ ซึ่งมีระบบปรับความสอดคล้องของมีเดียต่างๆ ภายในตัว เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับความสอดคล้องของเพลง ภาพถ่าย และวิดีโอ** ได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้น ในชุดยังมี Wi-Fi Music Sync ซึ่งเป็นคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยให้ผู้ใช้เรียกดูเพลง iTunes หรือ Windows Media Player ทั้งหมดที่เก็บเอาไว้ในสมาร์ทโฟนแบล็กเบอร์รี่ได้ รวมทั้งสร้างและแก้ไขเพลย์ลิสต์ และเลือกเพลงที่ดาวน์โหลดได้ ถ้าหากอยู่ในระบบเครือข่าย Wi-Fi ที่อยู่ในบ้าน (หรือผ่านการเชื่อมต่อ USB) จะมีการปรับความสอดคล้องของการเปลี่ยนแปลงร่วมกับ iTunes หรือ Windows Media Player จากนั้นเพลงจะดาวน์โหลดไปสู่สมาร์ทโฟนโดยอัตโนมัติ
• รองรับการติดต่อสื่อสารผ่านระบบ Tri-band HSDPA (3G) และ quad-band EDGE เพื่อรองรับการติดต่อพูดคุยในกว่า 220 ประเทศ รวมทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
• แบตเตอรี่ 1300 mAhr ที่ถอดเปลี่ยนได้และชาร์ทไฟได้รองรับการพูดคุยติดต่อกันเฉลี่ย 5.8 ชั่วโมงผ่านเครือข่าย 3G หรือฟังเพลงได้นาน 30 ชั่วโมง หรือดูวิดีโอได้นาน 6 ชั่วโมง

วันนี้ ผู้บริโภคในประเทศไทยสามารถสั่งจองแบล็กเบอร์รี่ทอร์ช 9800 ล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ที่ http://th.blackberry.com/torch ได้เป็นครั้งแรก โดยการสั่งจองแบล็กเบอร์รี่ทอร์ชล่วงหน้าจะช่วยให้ผู้บริโภคเกิดความสบายใจ เพราะตัวเครื่องมาพร้อมการรับประกัน 24 เดือน เฉพาะสมาร์ทโฟนแบล็กเบอร์รี่ของแท้ที่มาจากตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการรับรอง เท่านั้น


รีวิว Nokia5250

 

โนเกีย 5250 มือถือหน้าจอสัมผัสรุ่นเล็ก ที่เล็กในเรื่องของราคากับการดีไซน์ แต่คุณสมบัติที่ให้มาไม่ได้เล็กตามไปเลย เพราะมากับความสามารถของระบบปฏิบัติการ Symbian Series 60 รองรับฟังก์ชั่นความบันเทิงสมบูรณ์แบบทั้งเครื่องเล่นเพลง, วีดีโอ, วิทยุ FM, กล้องถ่ายรูป 2 ล้านพิกเซล, เครือข่ายสังคมออนไลน์, การใช้งานอินเตอร์เน็ต, เสียงเรียกเข้าสมจริง MP3 หรือ ไฟล์วีดีโอ, การเชื่อมต่อบลูทูธ, ชุดหูฟัง ขนาด 3.5 มิลลิเมตร และ ดาวน์โหลดบริการหรือแอพพลิเคชั่นได้อีกมากมายผ่าน Ovi 

Nokia 5250 ใช้จอแสดงผล 16 ล้านสี ความละเอียด 640 x 360 พิกเซล วัดความกว้างได้ 7 เซนติเมตร ตอบสนองการสัมผัสหน้าจอด้วยระบบสั่น พร้อมรองรับระบบ Handwriting recognition ในภาษาไทย มีเซนเซอร์ปรับการแสดงผลตามการหมุนหน้าจอ (Accelerometer Sensor) และ ระบบเปิด/ปิดแสงไฟหน้าจอในขณะสนทนา (Proximity Sensor)

อินเตอร์เน็ต
ฟังก์ชั่นการใช้งานอินเตอร์เน็ตของโทรศัพท์มือถือ Nokia 5250 ได้รวบรวมแอพพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่อเครือข่ายไว้ด้วยกัน มีทั้ง เว็บเบราว์เซอร์, เครื่องมือค้นหาข้อมูล, รายชื่อโอวี่, Facebook, Friendster, MySpace, Amazon, Hi5 และ Get Rihanna นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลดแอพลิเคชั่นเพิ่มเติมได้ผ่านบริการร้านค้าโอวี่

Comment

ต้องขอเน้นย้ำว่า Nokia 5250 ไม่ใช่เพียงมัลติมีเดียโฟนที่มีความบันเทิงครบครัน แต่มันคือสมาร์ทโฟนรุ่นหนึ่งที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Symbian Series 60 ดังนั้นผู้ใช้งานจึงสามารถ ดาวน์โหลดโปรแกรมมาติดตั้งเพิ่มเติมได้เอง เพื่อให้มีการทำงานแบบเดียวกับสมาร์ทโฟนรุ่นพี่ๆ ที่มีราคาสูงกว่า แต่สำหรับแอพพลิเคชั่นมาตรฐานที่ Nokia 5250 ติดตั้งมาให้ จะเน้นไปที่ความบันเทิง และ การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ตอบโจทย์ลูกค้าวัยรุ่นในปัจจุบันที่กำลังนิยใช้โซเชี่ยลเน็ตเวิร์คต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, MySpace, Hi5, Youtube ส่วนความบันเทิงก็มีทั้ง เครื่องเล่นเพลง, วีดีโอ, วิทยุ FM, อัลบั้มรูป, กล้องถ่ายรูป นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นทางด้านออร์กาไนเซอร์ครบครัน อย่างปฏิทิน, เครื่องคิดเลข, นาฬิกา, สมุดบันทึก, พจนานุกรม และ อื่นๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าผู้บริโภคที่ต้องการโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ ในราคาเบาๆ ตอนนี้ มีทางเลือกที่ดีเพิ่มขึ้นมาอีกรุ่นหนึ่ง Nokia 5250 คือคำตอบของผู้ที่ กำลังมองหาสมาร์ทโฟน ที่ตอบสนองได้ทั้งความบันเทิง และ แอพพลิเคชั่นออนไลน์ ในงบประมาณที่สบายกระเป๋า 

ที่มา : http://www.touchphoneview.com/review/2010/nokia/5250/5250.htm

http://www.qoolbuy.com/item/Nokia5250/159

รีวิว NokiaX3-02

 


ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec)
  • ระบบ Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)
    - WCDMA 850/900/1900/2100 MHz
    - HSDPA 10.2 Mbps, HSUPA 2 Mbps
  • จอสัมผัส TFT-LCD 262,000 สี - 240 x 320 พิกเซล (2.4")
  • เสียงเรียกเข้า Video, mp3, AAC, eAAC, eAAC+, WMA
    - ระบบสั่น (Vibration in Phone)
  • หน่วยความจำ 50 เมกะไบต์ (ตัวเครื่อง)
    - การ์ดหน่วยความจำ microSD card - สูงสด 16 GB
  • คุณสมบัติเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม
    - ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุรีไซเคิล 52 เปอร์เซ็นต์
    - อุปกรณ์นำกลับไปรีไซเคิลได้สูงสุด 100 เปอร์เซ็นต์
    - บรรจุภัณฑ์นำกลับไปรีไซเคิลได้สูงสุด 100 เปอร์เซ็นต์
    - ลดการใช้หมึกด้วยการใช้สีขาว-ดำในคู่มือ
  • มี 5 สีให้เลือก : น้ำเงิน (Petrol blue), ขาว (White silver), ชมพู (Pink), ดำ (Dark metal), ม่วง (Lilac)
จุดเด่น (Feature)
  • กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล (Digital camera)
    - ขนาดภาพสูงสุด 2592x1944 พิกเซล (Image size)
    - ซูมดิจิตอล 4 เท่า (4x Digital zoom)
    - ตั้งเวลาถ่ายภาพอัตโนมัติ (Self-timer) 3, 5, 10 วินาที
    - ลดจุดรบกวนภาพ (Noise reduction)
  • บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording)
    - ความละเอียด 320 x 240 พิกเซล, 20 เฟรมต่อวินาที
    - ซูมดิจิตอล 4 เท่า (4x Digital zoom)
    - รูปแบบไฟล์ : MPEG-4, 3GP
  • เครื่องเล่นวีดีโอ (Video Player) : MPEG-4, H.263, H.264, 3GP
  • เครื่องเล่นเพลง (Music Player)
    - รองรับไฟล์เสียง : mp3, AAC, eAAC, eAAC+ และ WMA
  • วิทยุ FM Stereo
  • ช่องเสียงชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
  • แฮนด์ฟรีในตัว (Build-in Handsfree)
  • เครื่องบันทึกเสียง (Voice Recorder)
  • เครื่องคิดเลข, ปฏิทิน, สิ่งที่ต้องทำ, แปลงหน่วย, นาฬิกาปลุก, จดบันทึก, เวลาโลก, จับเวลา, นับถอยหลัง
  • เกมส์ : Guitar Hero 5, Hip Hop Tournament, Climate Mission, Memorize
  • Flight mode - ใช้งานเครื่องโดยไม่เปิดสัญญาณโทรศัพท์
      ที่มา  http://www.siamphone.com/catalog/nokia/x3_touch.htm

              http://www.qoolbuy.com/item/NokiaX3-02/160
      

รีวิว Motorola Milestone

 
สำหรับโทรศัพท์มือถือที่เรามารีวิวให้ทุกท่านได้ชมกันก็ได้แก่ Motorola Milestone ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชันล่าสุด เวอร์ชัน 2.1 ที่ทางทรูมูฟเป็นผู้ที่นำเข้ามาจำหน่ายเพียงรายเดียวในประเทศไทย และมาพร้อมกับแพ็กเกจคุ้มๆ เอาไว้ใช้งานคู่กับ Milestone ไม่ว่าจะเป็น Truemove 3G, Truemove EDGE หรือ Truemove WiFi โดยความสามารถ หรือคุณสมบัติของ Milestone นั้นแน่นอนว่าไม่น้อยหน้ารุ่นใดในกลุ่มมือถือ Android ด้วยกันที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน และ Milestone ยังได้เปรียบตรงที่มีสไลด์คีย์บอร์ดในตัวที่ช่วยให้การพิมพ์ข้อความสะดวกรวด เร็วมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
 

จุดเด่น
 
- มีสไลด์คีย์บอร์ดแบบ QWERTY ในตัว พร้อมปุ่มควบคุมการทำงานแบบ 5 ทิศทาง
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 2.1 (Eclair)
- ตัวเครื่องมีความแข็งแรงแน่นหนา วัสดุที่ใช้มีคุณภาพสูง ผสมผสานกันทั้งพลาสติก และโลหะ ระบบกลไกการสไลด์มีความมั่นคง ไม่มีอาการโยกคลอนให้เห็น
- ตัวเครื่องค่อนข้างบาง หากเทียบกับโทรศัพท์มือถือที่สไลด์คีย์บอร์ดในตัวรุ่นอื่นๆ
- ระบบ CrystalTalk สำหรับตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา
- ช่องต่อสายหูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร
- ฟังก์ชัน Live Wallpapers ซึ่งเป็นการแสดงภาพพื้นหลังแบบเคลื่อนไหวที่ดูสวยงามแปลกตา
- Virtual Keyboard บนหน้าจอตอบสนองได้รวดเร็วแม่นยำ
- ประมวลผลด้วย ARM Cortex A8 ความเร็วในการประมวลผล 600 MHz
- หน้าจอสัมผัสแบบ Capacitive ขนาด 3.7 นิ้ว ความละเอียดสูงระดับ WVGA (480x854 Pixels) พร้อมระบบหมุนหน้าจออัตโนมัติ และ Proximity Sensor
- รองรับการซูมย่อขยายหน้าเว็บไซต์ หรือรูปภาพด้วยระบบ Pinch-to-Zoom หรือ Multi-touch
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ WiFi, HSDPA, EDGE หรือ GPRS
- กล้องดิจิตอลในตัว ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ และไฟแฟลช LED แบบคู่
- ถ่ายภาพวิดีโอได้ที่ความละเอียดระดับ D1 (720x480 Pixels)
- ระบบจีพีเอสในตัว พร้อมฟังก์ชัน A-GPS และโปรแกรมแผนที่ของ Motonav


                                                      จุดด้อย
 
- สไลด์คีย์บอร์ดไม่สามารถใช้เพื่อการพิมพ์ข้อความภาษาไทยได้ การพิมพ์ข้อความภาษาไทยต้องพิมพ์ผ่านทาง Virtual Keyboard บนหน้าจอแสดงผลเท่านั้น
- ตัวเครื่องค่อนข้างใหญ่ และหนักพอสมควร
- ไม่มีวิทยุ FM ในตัว
- โปรแกรม Motonav ทดลองใช้งานได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น
- ภาพถ่ายยังมี Noise ค่อนข้างเยอะ เก็บรายละเอียดได้ไม่ดีมากนัก แม้ว่าจะถ่ายในเวลากลางวันก็ตาม


ที่มา  http://www.thaimobilecenter.com/focus/mobile_revie/motorola_milestone_review.html

        http://www.qoolbuy.com/item/Motorola-Milestone-Android/154

รีวิว Samsung Star S5233 WiFi





 ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec)
  • ระบบ Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)
  • จอสัมผัส TFT-LCD 262,144 สี - 240 x 400 พิกเซล (3")
    - ระบบสัมผัสแบบ TouchWiz UI พร้อม Widget
    - ปลดล็อคหน้าจอด้วยการลากนิ้ว (Gesture Lock)
    - ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ (Auto Rotation)
  • เสียงเรียกเข้า MP3, Polyphonic
    - ระบบสั่น (Vibration in Phone)
  • หน่วยความจำ 50 เมกะไบต์ (ตัวเครื่อง)
    - การ์ดหน่วยความจำ microSD card - สูงสุด 8 GB
  • บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ 2,000 รายชื่อ (Phonebook)
    - แสดงรูปถ่ายขณะมีสายเข้า (Picture caller ID)

จุดเด่น (Feature)
  • กล้องดิจิตอล 3.2 ล้านพิกเซล (Digital camera)
    - ขนาดภาพสูงสุด 2048 x 1536 พิกเซล (Image Size)
    - ตรวจจับรอยยิ้ม (Smile Detection)
    - โหมดฉาก : รูปคน, ทิวทัศน์, กลางคืน, กีฬา, พระอาทิตย์ตก และ ตัวอักษร
    - โหมดถ่ายรูป : ช้อตเดียว, สไมล์ช้อต, ถ่ายภาพต่อเนื่อง, พาโนราม่า, โมเสก และ กรอบรูป
    - สมดุลแสงสีขาว : อัตโนมัติ, แสงจ้า, หลอดไฟแบบไส้, หลอดไฟฟลูออเรสเซ็นต์ และ สว่างน้อย
    - เอฟเฟ็คสี : ภาพขาวดำ, ภาพสีน้ำตาลแดง, ภาพเนกาทีฟ และ ภาพสีน้ำ
  • บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording)
    - ความละเอียด 320 x 240 พืกเซล
    - รูปแบบไฟล์ MP4 ความเร็ว 15 เฟรมต่อวินาที
  • เครื่องเล่นวีดีโอ H.263, H.264, MPEG4
  • เครื่องเล่นเพลง (Music Player)
    - รองรับไฟล์ MP3, AAC, AAC+, e-AAC+, WMA, WAV
    - DNSe เพิ่มเอฟเฟกต์ Virtual 3D sound และ Equalizer
  • โปรแกรมค้นหาข้อมูลเพลง (Music Recognition)
  • วิทยุ FM radio - RDS
  • รองรับแผนที่ Google Maps เวอร์ชั่น 2.3.2
  • ควบคุมเกมส์ด้วยการเคลื่อนไหวตัวเครื่อง (Motion control)
  • ฟังก์ชั่น Blacklist ปฏิเสธสายที่ไม่ต้องการรับ
  • แฮนด์ฟรีในตัว (Build-in Handsfree)
  • ปฏิทิน, สมุดบันทึก, สิ่งที่ต้องทำ, เวลาโลก, เครื่องคิดเลข และ การเปลี่ยนหน่วย, นาฬิกาปลุก, ตั้งเวลา และ การจับเวลา
  • ใช้งานเครื่องโดยไม่เปิดสัญญาณโทรศัพท์ (Offline mode) 

ที่มา http://www.siamphone.com/catalog/samsung/s5233w.htm

      http://www.qoolbuy.com/item/strar-wifistrar-wifi/156